
ปัจจุบันในอุตสาหกรรมอาหารมีการแข่งขันในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้น ซึ่งผู้ผลิตอาหารจำนวนมากก็ได้ นำหลักการของ HACCP ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มาใช้เป็นมาตรการควบคุมคุณภาพสินค้าในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค
จากที่เราทราบกันดีในหลักปฏิบัติของระบบ HACCP มีด้วยกัน 7 ประการ เรามักจะไม่เข้มงวดในหลักปฏิบัติในขั้นตอนที่ 7 ซึ่งกล่าวถึง “ กำหนดมาตรการการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิธีปฏิบัติและบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เหมาะสมตามหลักการเหล่านี้ และการประยุกต์ใช้ ” เราจะสังเกตได้ว่า เมื่อผู้ผลิตอาหารพบปัญหาในเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับการปลอมปนของโลหะไปกับสินค้า ผู้ผลิตหลายรายจะเริ่มเกิดความสงสัยในประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องตรวจจับโลหะเป็นอันดับต้นๆ เมื่อได้ทำการตรวจ -สอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับโลหะเพื่อยืนยันอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าการทำงานของเครื่องปกติดีทุกอย่าง ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ทำไมถึงยังมีโลหะปลอมปนไปกับสินค้า ซึ่งหลักปฏิบัติของระบบ HACCP ในขั้นตอนที่ 7 จะสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ถ้าหากผู้ผลิตมีการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องเป็นประจำก่อนและหลังการปฎิบัติงาน บันทึกการปรับตั้งเครื่อง และมีการบันทึกการคัดแยกสินค้าอย่างเป็นระบบ ให้มีความน่าเชื่อถือได้ ว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลต่างๆ

– สามารถบันทึกข้อมูลการตรวจพบโลหะ (Contaminate Log)
– สามารถบันทึกตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่อง (Performance verification system log)
– สามารถบันทึกการปรับตั้งค่าเครื่อง (Event log)
– สามารถบันทึกการเข้ารหัส (Access log)
– สามารถบันทึกการผิดพลาดของเครื่อง (Error log)
– สามารถบันทึกการทำงานในแบบ Batch (Batch log)