คุณคิดว่า…ซื้อเครื่องเอกซเรย์ ดีกว่า ซื้อเครื่องตรวจจับโลหะ จริงๆหรอ ?
ผู้ผลิตอาหาร อาจจะพบปัญหาการร้องเรียนจากลูกค้า เกี่ยวกับโลหะที่ปลอมปนในสินค้า หรือ ลูกค้ามีความต้องการให้ผู้ผลิตสินค้า มีการตรวจสอบโลหะ ในสินค้าก่อนส่งมอบสินค้า
โดยทำให้ผู้ผลิตอาหาร มีความจำเป็นที่จะต้องหาเครื่องมือ ที่สามารถตรวจสอบโลหะในสินค้า เพื่อเป็นการยืนยันคุณภาพสินค้า และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ในทางผู้ผลิตนั้นมันเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับโรงงาน ผู้ผลิตจึงต้องมีวิธีหรือมีปัจจัยต่างๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องมือ โดยส่วนใหญ่ก็จะพิจารณา ความสามารถ ในการตรวจจับ , ราคาเครื่อง , ราคาอะไหล่ และการบริการหลังการขาย เป็นต้น พอมีปัจจัยต่างๆเข้ามาให้พิจารณาในการเลือกซื้อ ผู้ผลิตอาหารบางราย ก็เลือกใช้เป็น เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) หรือบางรายก็เลือกใช้ เครื่องเอกซเรย์ (X-Ray inspection) ให้เหมาะสมกับสินค้า และความต้องการในการใช้งาน
ปัจจัยสำคัญต่างๆที่ผู้ผลิตควรพิจารณาใน การเลือกใช้งาน ระหว่าง เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) หรือ เครื่องเอกซเรย์ (X-Ray inspection) มีดังนี้
– บรรจุภัณฑ์เป็นชนิดอะไร เช่น ถุงพลาสติก , ถุงกระดาษ , อลูมิเนียมฟอร์ย , เมทาไลท์ฟิล์ม กระป๋องโลหะ , ขวดแก้ว
– ประเภทของสิ่งปลอมปนเป็น โลหะ หรือ อโลหะ
– ประเภทสินค้า แห้ง หรือ เปียก
ตารางเปรียบเทียบความสามารถ ระหว่าง เครื่องตรวจจับโลหะ และ เครื่องเอกซเรย์ ของสินค้า แช่แข็งขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม
จากตารางเปรียบเทียบทั้ง เครื่องตรวจจับโลหะ และ เครื่องเอกซเรย์ จะเห็นได้ว่า
- หากเราพิจารณาเฉพาะสิ่งปลอมปนที่เป็นโลหะ ก็จะพบว่าประสิทธิภาพในการตรวจจับโลหะ Fe ,Non Fe และSUS304 ไม่แตกต่างกันมากนัก ในส่วนของโลหะประเภทอลูมิเนียม และ Blue plaster เครื่องเอกซเรย์ จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาก แต่เครื่องเอกซเรย์ยังสามารถตรวจจับสิ่งปลอมปนที่ไม่ใช่โลหะได้ เช่น แก้ว หิน และ พลาสติกแข็ง (สิ่งปลอมปนที่เครื่องเอกซเรย์ไม่สามารถตรวจจับได้ เช่น เส้นผม, เส้นขน, เศษพลาสติก, เล็บ, ถุงมือยาง,แมลง ไม้,)
- หากเราพิจารณาในส่วนต้นทุนการผลิตก็จะพบว่าเครื่องตรวจจับโลหะจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า เครื่องเอกซเรย์หลายเท่า เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานที่เท่ากัน
สรุป เราก็จะได้คำตอบแล้วว่า เครื่องเอกซเรย์ หรือ เครื่องตรวจจับโลหะ อะไรดีกว่ากันนั้นก็ขึ้นอยู่ที่สินค้าเป็นแบบไหน และสิ่งปลอมปน ที่เรากำลังเฝ้าระวังอยู่เป็นอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้นทุนการผลิตที่สอดคล้องกับผลกำไรที่จะได้รับหรือไม่